ความรู้เรื่องโครงสร้างพื้นที่มีการใช้งานในโครงสร้างเหล็กรูปพรรณ หรือ STRUCTURAL STEEL

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

กลับมาพบกันในทุกๆ วันพุธแบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เรื่องประสบการณ์งานคำนวณออกแบบและการก่อสร้าง” นะครับ

ตอนนี้เรากำลังพูดถึงเรื่องงาน โครงสร้างเหล็กรูปพรรณ หรือ STRUCTURAL STEEL กันอยู่และหลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมได้พูดถึงหลายๆ เรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันกับโครงสร้างเหล็กรูปพรรณไปแล้ว เช่น โครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณ หรือ STRUCTURAL STEEL BEAM โครงสร้างหลังคายื่น หรือ CANOPY ROOF STRUCTURE เป็นต้น และเพื่อให้ต่อเนื่องจากในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งผมได้พูดถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับงานโครงสร้างเหล็กรูปพรรณนั่นก็คือ โครงสร้างพื้น หรือ FLOOR STRUCTURE ที่เรามักจะนำมาใช้ในงานโครงสร้างเหล็กรูปพรรณ ดังนั้นในวันนี้ผมจะมาอธิบายถึง โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป หรือ STRUCTURAL CONCRETE PRE-CAST SLAB นั่นเองครับ

จริงๆ แล้วโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปอาจจะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ (1) โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปชนิดตัน หรือ SOLID PLANK SLAB เหมือนกันกับที่แสดงอยู่ในรูปที่ 1 และ (2) โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปชนิดกลวง หรือ HOLLOW CORE SLAB เหมือนกันกับที่แสดงอยู่ในรูปที่ 2 ซึ่งจริงๆ แล้วระบบโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นจะมีทั้งการก่อสร้างด้วยระบบ คอนกรีตเสริมเหล็ก หรือ คสล และระบบ คอนกรีตอัดแรง หรือ คอร และโดยมากแล้วก็จะเป็นการอัดแรงแบบดึงลวดก่อน หรือ PRE-TENSIONED PRESTRESSED CONCRETE นะครับ

หากเพื่อนๆ มีโอกาสเปิดอ่านคู่มือสำหรับผู้ออกแบบเพื่อที่จะเลือกใช้งานโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปเหมือนกันกับตัวอย่างในรูปที่ 3 และ 4 แล้วละก็เพื่อนๆ ก็จะเห็นได้ว่า การใช้งานโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นจะค่อนข้างมีความตรงไปตรงมามากๆ เลย เช่น ยิ่งขนาดความยาวของช่วงพาดนั้นมีค่าน้อยเท่าใด นั่นก็จะแสดงว่า โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปก็จะยิ่งมีค่าความสามารถในการรับน้ำหนักปลอดภัยที่สูงมากสวนทางกัน หรือ ยิ่งจำนวนของการค้ำยันนั้นมีความถี่มากเท่าใด/ยิ่งขนาดความหนาของคอนกรีตทับหน้ามีค่ามากเท่าใด/จำนวนของลวดอัดแรงที่อยู่ภายในโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นมีปริมาณที่มากเท่าใด นั่นก็จะแสดงว่า โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปก็จะยิ่งมีค่าความสามารถในการรับน้ำหนักปลอดภัยที่ยิ่งสูงตามไปด้วย เป็นต้นนะครับ

เนื่องด้วยระบบพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นจะเป็นการก่อสร้างที่อาศัยชิ้นส่วนคอนกรีตที่มีลักษณะเป็น ชิ้นส่วนที่มีความสำเร็จรูป หรือ PRE-CAST MEMBER ซึ่งได้ถูกทำการผลิตออกมาจากโรงงาน พอทำการติดตั้งให้เข้าที่เสร็จก็ค่อยมาทำการวาง เหล็กต้านทานการหดตัว หรือ SHRINKAGE STEEL สุดท้ายก็ทำการเททับหน้าด้วยคอนกรีตสำหรับงานโครงสร้าง ซึ่งจะเห็นได้จากขั้นตอนข้างต้นนี้ว่าพฤติกรรมของโครงสร้างของพื้นชนิดนี้จะมีชื่อเฉพาะที่ใช้ในการเรียกว่า หน้าตัดที่อาศัยวัสดุผสม หรือ COMPOSITE SECTION ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างวัสดุ 3 อย่างได้แก่ คอนกรีตจากโรงงานผู้ผลิต เหล็กเสริมต้านทานการหดตัว และ คอนกรีตที่หน้างาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรหากเราจะเรียกกรรมวิธีการก่อสร้างด้วยระบบๆ นี้ว่า การก่อสร้างด้วยวิธีการสำเร็จรูป หรือ PRE-CAST CONSTRUCTION METHOD ซึ่งจุดเด่นของระบบๆ นี้ก็คือ สามารถทำงานได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งก็จะช่วยทำให้สามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยทีเดียว แต่ ในเมื่อมีจุดเด่นก็ย่อมมีจุดด้อยเช่นเดียวกันนั่นก็คือ เมื่อการก่อสร้างนั้นเป็นไปด้วยวิธีการสำเร็จรูปซึ่งเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างวัสดุตั้งแต่หนึ่งชนิดขึ้นไป สิ่งหนึ่งที่เรามิอาจจะหลีกเลี่ยงได้เลยก็คือ หน้าตัดโครงสร้างของเรานั้นจะมีความไม่เป็นเนื้อเดียวกันอย่างสมบูรณ์ หรือ NON-HOMOGENEOUS SECTION และเมื่อใดก็ตามที่หน้าตัดภายในโครงสร้างของเรานั้นมีคุณลักษณะดังกล่าว ปัญหาเรื่องหนึ่งที่มักจะเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือเรื่อง น้ำ เพราะหากเพื่อนๆ ต้องการที่จะอาศัยโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปให้เป็นพื้นที่ต้องสัมผัสกับน้ำเกือบจะตลอดเวลา เช่น โครงสร้างพื้นสำหรับห้องน้ำ โครงสร้างพื้นสำหรับระเบียง โครงสร้างพื้นสำหรับซักล้าง โครงสร้างพื้นสำหรับชั้นดาดฟ้า เป็นต้น และเพื่อนๆ ไม่ต้องการที่จะประสบพบเจอกับปัญหาเรื่องของการที่น้ำนั้นเกิดการรั่วและซึมแล้วละก็ เพื่อนๆ จะต้องยอมลงทุนในเรื่องของการทำกันซึมให้แก่โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างสูงเลยนะครับ

สืบเนื่องจากเหตุผลก่อนหน้านี้ผมจึงต้องขออธิบายคล้ายๆ กันกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ผมได้ทาการอธิบายไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า เนื่องจากตัวโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นจะมีคุณลักษณะเป็นหน้าตัดที่อาศัยวัสดุผสม ดังนั้นความแข็งเกร็งทางด้านข้าง หรือ LATERAL STIFFNESS ของโครงสร้างพื้นชนิดนี้ก็จะมีค่าที่ค่อนข้างน้อยกว่าระบบพื้นหล่อในที่ ดังนั้นหากเพื่อนๆ เป็นผู้ออกแบบผมอยากจะขอให้คำแนะนำเอาไว้ว่า เพื่อนๆ ควรที่จะหลีกเลี่ยงการที่จะทำการออกแบบอาคารของเพื่อนๆ ให้มีคุณลักษณะของ DIAPHRAGM แต่หากมีความต้องการที่จะทำการจำลองให้โครงสร้างของเพื่อนๆ นั้นมีคุณลักษณะของ DIAPHRAGM จริงๆ ก็อาจจะต้องพิจารณานำเอาค่า EQUIVALENT LATERAL STIFFNESS ที่มีอยู่ในโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณมาใช้ก็พอเป็นได้อยู่แต่ก็จะต้องทำการพิจารณาเรื่องจำเป็นอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ต้องทำการพิจารณาและออกแบบให้โครงสร้างส่วนนี้ให้สามารถที่จะมีกำลังรับแรงกระทำตามแนวแกนหรือ AXIAL FORCE CAPACITY ที่มีความเพียงพอด้วยเสมอ เป็นต้นนะครับ

ประเด็นทิ้งท้ายประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากจะขอหยิบยกนำเอาอธิบายพอสังเขปสำหรับโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปก็คือ ในเมื่อโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปของเรานั้นถูกก่อสร้างขึ้นด้วยหน้าตัดที่อาศัยวัสดุผสม ดังนั้นเวลาที่โครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นวางตัวลงไปบนคานเหล็กรูปพรรณซึ่งแน่นอนว่าเป็นวัสดุคนละชนิดกันกับตัวแผ่นพื้น เราจึงควรที่จะพิจารณาทำการออกแบบและก่อสร้างให้ทั้งสองวัสดุนี้มีพฤติกรรมความสอดคล้องซึ่งกันและกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมีความเป็นไปได้ เช่น พอหน้าตัดนั้นถูกผสมให้เข้ากันแล้วในตัวโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปก็จะเกิดแรงเค้นเฉือนตามแนวระนาบขึ้น ดังนั้นเราจะต้องพิจารณาทำการออกแบบให้มีเหล็กเสริมที่จะมาทำหน้าที่ในการถ่ายเทแรงเค้นเฉือนนี้ไปยังคานเหล็กรูปพรรณไปให้ได้ มิเช่นนั้นโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปของเราก็มีโอกาสที่จะเกิดการแยกส่วนกันกับโครงสร้างเหล็กรูปพรรณก็เป็นได้ เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้วหากจะให้ทำการอธิบายถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆ ในทุกๆ ส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกันกับโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปนี้ก็ยังคงมีอีกมากเลย เอาเป็นว่าผมขออนุญาตนำเอามาอธิบายใหม่ในการโพสต์ครั้งต่อๆ ไปซึ่งอาจจะเป็นโพสต์ที่เกี่ยวข้องกันกับโครงสร้างพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปโดยเฉพาะเลยก็แล้วกันนะครับ
ในสัปดาห์หน้าผมจะนำเอาเรื่องพื้นประเภทใดมาอธิบายต่อเพื่อให้เพื่อนๆ ทุกคนได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องประเภทของพื้นที่มีการใช้งานในโครงสร้างเหล็กรูปพรรณก็สามารถที่จะติดตามรับชมและอ่านบทความของผมกันได้ในสัปดาห์หน้านะครับ

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านจากคำตอบในวันนี้น่าที่จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ
#โพสต์ของวันพุธ
#ความรู้เรื่องประสบการณ์งานคำนวณออกแบบและการก่อสร้าง
#ความรู้เรื่องโครงสร้างพื้นที่มีการใช้งานในโครงสร้างเหล็กรูปพรรณ
#ครั้งที่3
ADMIN JAMES DEAN


บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปัน ไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service) Certified by SGS (Thailand) Ltd.

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 15-50 ตัน/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดเสาเข็มและสภาพชั้นดิน แต่ละพื้นที่ ทดสอบโดย Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)

1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น

2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น

3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น

เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)

4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น

5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น

เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)

6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น

7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น

8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447 (คุณจิน)
☎️ 082-790-1448 (คุณสปัน)
☎️ 082-790-1449 (คุณปุ๊ก)
☎️ 091-9478-945 (คุณสปัน)
☎️ 091-8954-269 (คุณสปัน)
☎️ 091-8989-561 (คุณมาย)
📲 https://lin.ee/hum1ua2
🎥 https://lin.ee/gN4OMZe
📥 https://m.me/bhumisiam

 

🌎 Web:
bhumisiam.com
micro-pile.com
spun-micropile.com
microspunpile.com
bhumisiammicropile.com